ค่านิยม 12 ประการ : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 10 / 162

คือ ต้องไปรับวิบากกรรมอันแสนสาหัสอยู่ในมหานรก สำหรับผู้ซื้อและสังคมโดยรวมนั้นจะ เห็นโทษที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ผู้ซื้ออาวุธไปก็มีโอกาสนำไปเข่นฆ่ากัน ผลก็คือมีการล้มตาย เกิดขึ้น หากการเข่นฆ่านั้นเป

บทความนี้กล่าวถึงโทษที่เกิดจากการเสพน้ำเมา ซึ่งมีผลกระทบต่อโภคทรัพย์และสังคมโดยรวม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงโทษของน้ำเมาไว้ 6 ประการ ได้แก่ เสื่อมจากทรัพย์, ก่อการทะเลาะวิวาท, เป็นบ่อเกิดโรค, เสียชื่

บทที่ 9 วาทศาสตร์ในพระไตรปิฎก 9.1 ภาพรวมวาทศาสตร์ในพระไตรปิฎก ในบทนี้จะกล่าวถึงหลักการพูดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพุทธบริษัทซึ่งถือเป็น หลักวาทศาสตร์ที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 6 ปร

บทนี้พูดถึงหลักการพูดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพุทธบริษัทในพระไตรปิฎก แบ่งออกเป็น 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ วาจาสุภาษิต, อานิสงส์ของการกล่าววาจาสุภาษิต, โทษของวาจาทุพภาษิต, หลักการแสดงธรรม, การตอบปัญหา และก

1) ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ สัปปายะ แปลว่า สบาย ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ หมายถึง ทำในสิ่งที่ทำให้มีความสบาย ต่อสุขภาพของตนเอง สัปปายะมี 7 ประการ ได้แก่ อาวาส, โคจร, การสนทนา, บุคคล, โภชนะ, ฤดู และ อิริยาบถ สั

ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ หมายถึง ทำในสิ่งที่ทำให้มีความสบายต่อสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย 7 ประการ ได้แก่ อาวาส, โคจร, การสนทนา, บุคคล, โภชนะ, ฤดู และ อิริยาบถ ใน 4 ประการที่มีผลโดยตรงต่อการดูแลสุขภาพ มีดังนี้

และเนื่องจากมนุษย์ถูกกิเลสควบคุมนี้เอง จึงทำในสิ่งที่เป็นอกุศล เมื่อทำในสิ่งที่เป็นอกุศล ความ เสื่อมจึงเกิดขึ้น และขยายผลตามลำดับ ซึ่งจากลำดับเหตุการณ์ของความเสื่อมที่เกิดขึ้นดังปรากฏใน จักกวัตติสูตรท

เนื้อหานี้นำเสนอสาระเกี่ยวกับความเสื่อมที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ผ่านการกระทำอกุศลกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะ 10 ประการที่ทำให้มนุษย์และโลกเสื่อมถอยลง ตั้งแต่การลักขโมยไปจนถึงการกล่าวคำเท็จและความเ

อกุศลกรรมที่กระทำทางใจเรียกว่า มโนกรรม มี 3 ประการ ประกอบด้วย 1. อภิชฌา ความคิดเพ่งเล็งอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่น 2. พยาบาท ความคิดที่จะทำร้ายผู้อื่น 3. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม ซึ่งการเป็น

เนื้อหาเกี่ยวกับมโนกรรมซึ่งประกอบด้วยอภิชฌา พยาบาท และมิจฉาทิฏฐิ ซึ่งมี 10 ประการ โดยเฉพาะมิจฉาทิฏฐิที่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติของมนุษย์ที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ดีและธรรมะ เช่น การให้ทานหรือบูชาไม่มีผล การทำกร

เมื่อกล่าวถึงความตายของเหล่าทวยเทพจะมีลางบอกเหตุที่เรียกว่าบุพนิมิตที่จะทำให้จุติจากสวรรค์ มีอยู่ 5 ประการ ดังที่มีกล่าวไว้ใน จวมานสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด เทวดาเป็นผู้จะต้องจุติจากเทพนิก

เมื่อกล่าวถึงความตายของทวยเทพ จะมีลางบอกเหตุที่เรียกว่าบุพนิมิต ซึ่งมี 5 ประการ ได้แก่ ดอกไม้เหี่ยวแห้ง, ผ้าหม่นหมอง, เหงื่อไหล, ผิวเศร้าหมอง และการไม่ยินดีในทิพอาสน์ของตน โดยเมื่อเทวดาเห็นนิมิตเหล่าน

PE มลายหายไป ไม่ใช่ตัวตนที่ยั่งยืนไปตลอดกาล คนทั้งโลกมองไม่เห็นไตรลักษณ์ในสรรพสิ่ง จึงลุ่มหลงยินดียิน ร้ายหวั่นไหวไปในโลกธรรม ๘ ประการ จึงต้องตกอยู่ในห้วงทุกข์ตลอด เวลา แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็น ท

บทความนี้พูดถึงการมองเห็นไตรลักษณ์ของชีวิตและการทำใจให้สงบในขณะที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตคู่ โดยผู้เขียนเน้นถึงความสำคัญของการฝึกทำใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตคู่สู่ความ

บทที่ ๒ วินัยของอริยบุคคล พระธรรมเทศนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแสดงแก่สิงคาลกะ ใน เช้าวันนั้น มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้ “...คหบดีบุตร อริยสาวกละกรรมกิเลส ๔ ได้แล้ว ไม่ทำบาป กรรมโดยเหตุ ๔ ประการ และไม่ข้

บทนี้กล่าวถึงพระธรรมเทศนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่สิงคาลกะเกี่ยวกับวินัยของอริยบุคคลที่สามารถละกรรมกิเลสและทำให้ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์เพื่อพัฒนาตนเองและสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม โดยมุ่งเน้นการทำความ

สรุปเกณฑ์มาตรฐานคนดี บทที่ ๒ ด้วยพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัส เทศนาอริยวินัยในระดับชาวบ้านไว้เป็นวินัยของคฤหัสถ์ เรียกว่า “คิริวินัย” สำหรับคฤหัสถ์หรือประชาชนทั่วไปยึดเป็นหลักประพ

บทที่ ๒ สรุปคุณสมบัติของคนดีในทัศนะของพระพุทธศาสนา มีด้วยกัน ๔ ประการ ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม ศีลธรรมทางเศรษฐกิจ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบเหล่านี้ช่วยให้บุคคลสามารถเป็นคนดีที่

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ ៨២ ๑ พุทธวิธีในการบ่มอินทรีย์ให้แก่ศิษย์ ในการแสดงพระธรรมเทศนาสิงคาลกสูตร ซึ่งพระพุทธองค์ทรง มุ่งหมายให้เป็นแนวทางสร้างคนดี เราจะได้เห็นพระอัจฉริยภาพในการที่ พระพุทธองค์ทรงบ่มอินทร

ในพระธรรมเทศนาสิงคาลกสูตร พระพุทธองค์ทรงแสดงวิธีการบ่มอินทรีย์ให้แก่ศิษย์ โดยการสอนให้เข้าใจอริยวินัยและการไม่ก่อกรรมกิเลส เพื่อพัฒนาความดีในตัวบุคคล พระองค์ทรงเห็นถึงระดับอินทรีย์ของแต่ละคนและใช้วิธี

มิตรแท้คือมิตรมีใจดีต่อเพื่อน บทที่ ๕ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งมิตรแท้ ออกเป็น ๔ ประเภท ตามพฤติกรรมที่แสดงออก ดังนี้คือ ๔ ๑. มิตรมีอุปการะ ๒. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ๓. มิตรแนะประโยชน์ ๔. มิตรมีความรักใ

ในบทที่ 5 นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แบ่งประเภทของมิตรแท้ออกเป็น 4 ประเภทตามพฤติกรรม ได้แก่ มิตรมีอุปการะ, มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์, มิตรแนะประโยชน์ และมิตรมีความรักใคร่ โดยพระองค์ได้แสดงพฤติกรรมเด่นๆ ของแ

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ ต้องการให้เพื่อนประสบปัญหา จึงกล้าแสดงความรับผิดชอบด้วยการ ปกป้องและคุ้มครองเพื่อน เสมือนหนึ่งความทุกข์ของเพื่อนก็คือความ ทุกข์ของตนเอง บุคคลที่คุ้มครองป้องกันเพื่อนหรือรับผิดชอบต่

คัมภีร์นี้ว่าด้วยการแสดงความรับผิดชอบต่อเพื่อน โดยเห็นว่าความทุกข์ของเพื่อนก็คือความทุกข์ของตนเอง รวมถึงพฤติกรรมที่ดีของมิตร เช่น การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ การปกป้องความลับของเพื่อน และการไม่ละทิ้งเ

บทที่ ๕ เป็นที่พึ่ง รักษาศีล ๕ และตั้งอยู่ในกุศลกรรมบถ ๑๐ ๒ ๓) กล้าให้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟัง คือ ให้เพื่อนฟังธรรมที่ละเอียด ลึกซึ้งที่ยังไม่เคยฟัง เพื่อเพิ่มพูนปัญญา ๔) กล้าบอกทางสวรรค์ให้ คือแนะนำให้ท

บทนี้กล่าวถึงพฤติกรรมของมิตรแท้ที่มีต่อกัน โดยแบ่งเป็น ๔ กลุ่มหลัก ได้แก่ การกล้าให้ฟังธรรม, การแนะนำการทำกรรมดี, การร่วมทุกข์ร่วมสุข และการสนับสนุนเพื่อน นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษา

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ ประโยชน์ของการศึกษาเรื่องมิตรแท้ จากการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งมิตรแท้ออกเป็น ๔ ประเภท แต่ละประเภทมีพฤติกรรมแห่งความกล้ารับผิดชอบ ๔ ประการ รวมเป็นวินัยในการคบมิตร ๑๖ ประการนี้

คัมภีร์นี้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรแท้และมิตรเทียม โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แบ่งมิตรแท้ออกเป็น ๔ ประเภท พร้อมพฤติกรรมแห่งความกล้ารับผิดชอบทั้ง ๑๖ ประการที่สำคัญในการคบมิตร นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบลักษณ

๑๒๔ คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ ดังนั้น เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า บัณฑิต มิตรแท้ กัลยาณมิตร หรือคนดี ย่อมมีความหมายเหมือนกันหมด ว่าเป็น “คนดี” มี ความรับผิดชอบทั้ง ๔ ประการ ตามคุณสมบัติของคนดีดังกล่

คัมภีร์นี้เสนอความหมายของ 'คนดี' ที่มีความรับผิดชอบทั้ง ๔ ประการ ได้แก่ รับผิดชอบต่อสังคม รับผิดชอบต่อทิศ ๖ และสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อตนเอง และรับผิดชอบเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นย้ำความสำคัญของการเป็นกัลยา

១៤៨ คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ สามีที่มีความรับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ทั้ง ๕ ประการ ได้ สมบูรณ์ ก็เพราะได้รับการปลูกฝังอบรมจากมารดาบิดาตลอดจนครูบาอาจารย์ ให้เป็นคนดีมาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ผู้เป็นสามีที่ปฏิบัติ

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์กล่าวถึงความสำคัญของการอบรมสามีให้มีความรับผิดชอบ โดยระบุหน้าที่ 5 ประการของภรรยาที่ควรปฏิบัติเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสามี อย่างเช่น การจัดการงานภายในบ้านและการดูแลคนรอบข้างเพื่อเส

บทที่ ๘ คุณสมบัติ ๔ ประการของคนดีมีอะไรบ้าง? เพื่อที่จะไม่ต้องพลิกย้อนกลับไปดูบทที่ ๒ อีก จึงขอกล่าวถึง คุณสมบัติ ๔ ประการของคนดี ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ ๑. คนดีต้องมีความสำนึกรับผิดชอบต่อศัก

บทความนี้กล่าวถึงคุณสมบัติของคนดีที่จำเป็นต้องมีเพื่อเป็นจิตใจที่บริสุทธิ์และก้าวไกลจากความชั่วร้าย โดยเน้นถึงกรรมกิเลส ๔ ประการที่ควรหลีกเลี่ยง และพฤติกรรมเสริมที่ส่งผลต่อสังคมที่สงบสุข การเข้าใจและป

๒๕๖ คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ การกระทำอันเป็นการทุจริตแม้เล็กน้อย มีสติยั้งคิดใคร่ครวญอยู่เสมอว่า สิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ คุณธรรมเหล่านี้ของคนดีจึงพัฒนาขึ้นเป็น ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม ๑๖ ประการ ของมิตรแท้ได้

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์สำรวจความสำคัญของการพัฒนาคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม รายละเอียดรวบรวมไว้เกี่ยวกับอคติ ๔ ประการและผลกระทบต่อสังคมว่าก่อให้เกิดปัญหาความไม่เป็นธรรมและวิกฤตต่างๆ ในประเทศไทย โดยเสน

บทที่ ๘ ๔. คอยแนะนำให้ถูกทาง ให้สติเมื่อหลงผิด เป็นคู่คิดคู่ปรึกษา ในกิจต่างๆ ๕. อดทนต่อคำพูดและการกระทำของเพื่อนได้ มีเหตุผลพร้อมที่ จะรับฟังเพื่อน 5. ฉลาดชี้แจงอธิบายเรื่องที่ลึกลับซับซ้อนได้ ๗. ไม่

บทนี้อธิบายแนวทางในการปลูกฝังอริยวินัยว่าด้วยการฝึกอบรมกายและวาจาของปุถุชนเพื่อให้กิเลสลดลง และบรรลุถึงความเป็นอริยะ ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นในการเป็นมิตรแท้และกัลยาณมิตร รวมถึงการเป็นคู่คิ

คัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ หน้าที่พ่อแม่ตามพุทธบัญญัติ เพื่อให้การปลูกฝังอบรมลูกๆ สามารถทำให้ลูกมีคุณสมบัติของ คนดีที่โลกต้องการ พระพุทธองค์จึงได้ทรงกำหนดหน้าที่ไว้ให้ผู้เป็นพ่อแม่ ยึดถือเป็นอริยวินัย ในการป

คัมภีร์นี้อธิบายหน้าที่ของพ่อแม่ในการปลูกฝังลูกตามพุทธบัญญัติเพื่อให้ลูกมีคุณสมบัติที่ดี โดยมีหน้าที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ห้ามทำชั่ว, ตั้งอยู่ในความดี, ศึกษาศิลปวิทยา, หาภรรยาหรือสามีที่เหมาะสม, และม